พาส่อง แมวยักษ์แต่ละสายพันธุ์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

วันนี้แอดมินจะพาเปิดวาร์ปแมวยักษ์ทั้งหมด 14 สายพันธุ์ที่อยู่ในความดูแลของเราให้แฟนเพจได้ทำความรู้จักแต่ละสายพันธุ์ ว่าจะมีลักษณะรูปร่างหน้าตายังไงจะน่ารักแค่ไหน…. พร้อมแล้วก็มารู้จักกับเจ้าแมวยักษ์เหล่านี้กันเลยยยยยย…

เริ่มจากตัวแรก เสือโคร่งอินโดจีน (Indochinese tiger) จากการวิจัยทางพันธุกรรมชี้ให้เห็นว่า เสือโคร่งอินโดจีนอาจเป็นบรรพบุรุษของเสือโคร่งทุกชนิดพันธุ์ ก่อนที่สายพันธุ์เสือโคร่งจะแตกแขนงเป็นชนิดพันธุ์ต่าง ๆเมื่อราว 108,000 -72,000 ปีที่ผ่านมา

เสือโคร่งไซบีเรีย (Siberian tigers) เป็นแมวยักษ์ที่มีน้ำหนักตัวเยอะที่สุดและมีพละกำลังเยอะสุดเมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ ในสกุล แม้จะได้ชื่อว่าเสือโคร่งไซบีเรีย แต่ถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันอยู่ในบริเวณผืนป่าที่หนาวเย็น ทางตะวันออกของรัสเซีย และเป็นชนิดพันธุ์ของเสือโคร่งที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างมาก จากประชากรที่สำรวจได้ในปัจจุบันพบราว 400 ถึง 500 ตัว

เสือโคร่งเบงกอล (bengal tiger) มีถิ่นที่อยู่อาศัยตั้งแต่ประเทศตุรกี ยาวถึงด้านตะวันออกของรัสเซีย ชอบอยู่ตามลำพัง นิสัยของมันเมื่อเทียบกับแมวยักษ์ในสกุลเสือโคร่งจะมีความดุร้ายน้อยที่สุด สถานะปัจจุบันคาดว่าเหลืออยู่ประมาณ 3,000 ตัว ในธรรมชาติ

เสือดาว หรือเสือดำ (Leopard) คนมักเข้าใจผิดว่าเสือดาวกับเสือดำเป็นเสือต่างชนิดกัน แต่ความจริงแล้วมันเป็นเสือชนิดเดียวกัน ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าเสือดำก็มีลายเช่นเดียวกับเสือดาวแต่จะมองเห็นได้ยากกว่า แมวยักษ์ตัวนี้ชอบใช้ชีวิตบนต้นไม้แถมยังเคลื่อนที่ว่องไวเอามาก ๆ จากสถิติการทำร้ายคนในอินเดียและแอฟริกา เสือดาวขึ้นชื่อว่าเป็นเสือที่มีความดุร้ายมากที่สุดในบรรดาแมวยักษ์ทั้งหมด แต่น่าแปลกใจที่มนุษย์ก็ยังสามารถทำร้ายมันได้

สิงโต (Lion) สัตว์ที่สูงที่สุด (สูงจรดหัวไหล่) และเป็นสมาชิกเพียงชนิดเดียวในวงศ์เสือและแมวที่แสดงความแตกต่างระหว่างเพศอย่างชัดเจน และแต่ละเพศก็จะบทบาทพิเศษต่างกันไปในฝูง ในกรณีสิงโตเพศเมีย ที่เป็นนักล่าจะไม่มีแผงคอหนาเป็นภาระเช่นในเพศผู้ สิงโตนั้นเป็นสัตว์ที่อยู่กันเป็นฝูง และเป็นนักล่าที่มีความฉลาดคอยย่องเข้าโจมตีเหยื่ออย่างรวดเร็วและฉับไว และสิงโตมีขนาดตัวที่ใหญ่มากรองจากเสือโคร่ง และนี่เองคือที่มาของฉายา “เจ้าป่า”

เสือจากัวร์ (jaguar) แอดมินขอยกให้เป็นเสือสุดโหดเลยก็ว่าได้ เพราะเจ้าเสือจาร์กัวมีกระโหลกที่ใหญ่มากที่สุดในสัตว์ตระกูลแมวยักษ์ทั้งหมด และมีแรงกัดถึง 1,350 PSI ซึ่งถือว่าแรงที่สุดในสัตว์ตระกูลแมวยักษ์ทั้งหมดอีกด้วย แถมมันยังฉลาดและดำน้ำเก่งพอที่สามารถฆ่าจระเข้ไคแมนกินเป็นอาหารได้ง่ายๆเลยแหละ

ชีตาห์ (Cheetah) แมวยักษ์ชนิดนี้จะมีรูปร่างสูงเพรียว และมีหางที่ยาวกว่าเมื่อเทียบกับสัตว์ตระกูลแมวยักษ์ทั้งหมดอีกด้วย ข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับเสือชีตาห์ก็คือพวกมันเป็นสัตว์บกที่เร็วที่สุดในโลก วิ่งเร็วแซงหน้าเพื่อน ๆในตระกูลแมวยักษ์ กันเลยทีเดียวและความเร็วอาจสูงถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและพวกมันมีรูจมูกขนาดใหญ่เพื่อสูดดมออกซิเจนมากขึ้นระหว่างวิ่ง

เสือพูม่า (Puma) มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา เป็นแมวรักสันโดษขนาดใหญ่ที่มีการกระจายพันธุ์กว้างที่สุดในบรรดาเพื่อนฝูง เนื่องจากพวกมันสามารถอาศัยได้ในหลากหลายสภาพอากาศและสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นในป่า ทุ่งหญ้า ทะเลทราย หรือแม้กระทั่งในหุบเขาหิมะ ด้วยความเป็นนักล่าที่มีความสามารถในการย่องเงียบและซุ่มโจมตี ทำให้แมวยักษ์ตัวนี้สามารถล่าเหยื่อได้หลากหลาย

เสือไฟ (Asian Golden Cat) รูปร่างเพรียว สูงใหญ่ขนาดสุนัขพื้นเมือง ขายาว มีขนสีน้ำตาลแกมแดง ไม่มีลายและจุดดำตามตัว แต่มีเส้นดำ 2-3 เส้นวิ่งตามยาวลงมาที่หน้าผาก มักหากินในเวลากลางคืน เสือไฟอยู่ในทะเบียนสัตว์ป่าคุ้มครองของไทย ซึ่งมีการกำหนดโทษความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานกระทำต่อสัตว์สงวน โทษจำคุก 3 – 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 300,000-1,500,000 บาท

เซอร์วัล (serval) มาจากภาษาโปรตุเกสแปลว่า “กวางหมาป่า” เนื่องจากมีลักษณะเด่นคือ มีคอยาว หูใหญ่ หัวเล็ก ทำให้แลดูคล้ายกวาง เซอวอล นั้นจัดได้ว่าเป็นแมวที่มีขายาวที่สุด เมื่อเทียบสัดส่วนร่างกาย มีพฤติกรรมอาศัยและหากินอยู่ตามลำพังมักพบในแหล่งที่ชุ่มชื้น โดยล่าหนู, นก, กระต่ายป่า, กบ รวมถึงกิ้งก่าหรือจิ้งจกเป็นอาหาร แฟนเพจสามารถพบกับพฤติกรรมการอาหารตามธรรมชาติของเจ้าตัวนี้ได้ที่ กิจกรรมนักล่าแห่งรัตติกาล Night Predator Show

คาราคัล (Caracal) แมวยักษ์ที่ภายนอกดูน่ารัก แต่แท้จริงแล้วมันเป็นแมวป่าที่มีสัญชาตญาณของสัตว์ป่าอยู่เต็มเปี่ยม จะออกล่าสัตว์ในเวลากลางคืนเท่านั้น คำว่า คาราคัล มาจากคำในภาษาตุรกี “karakulak” ซึ่งแปลว่า “หูสีดำ” อาศัยอยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง อดทนต่อสภาพที่อยู่อาศัยหลายประเภท มันอดน้ำได้เก่งมาก เพียงน้ำจากตัวเหยื่อก็ดำรงชีวิตได้แล้ว
เสือลายเมฆ (Clouded Leopard) มีลักษณะคล้ายเสือดาวแต่ตัวเล็กกว่า และรูปร่างเตี้ยป้อม ลำตัวมีสีน้ำตาลแกมเขียว และมีลายเป็นวงใหญ่คล้ายก้อนเมฆทั่วตัว เป็นที่มาของชื่อมันนั่นเอง หากินบนต้นไม้มากกว่าตามพื้น จัดอยู่ในประเภทสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ของโลก รวมถึงประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 34 ของสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ พบกับแมวยักษ์หายากตัวนี้ได้ในโซนเดินชมสัตว์ที่ใกล้จะเปิดเร็ว ๆ นี้

แมวดาว (Leopard Cat) เป็นแมวป่าที่พบได้ง่ายที่สุดในเมืองไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีขนาดเล็กใกล้เคียงแมวบ้าน แต่ขายาวกว่าเล็กน้อย มีลายจุดทั่วทั้งตัว สีลำตัวต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ พวกมันสัตว์ที่มีการปรับตัวอาศัยในป่าได้หลากหลายเช่นป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณพื้นที่เกษตรกรรมฯลฯ แมวดาวปีนต้นไม้ได้เก่ง ชอบอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ อาหารหลักของแมวดาวคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังกิน นก สัตว์เลื้อยคลาน ปลา สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และแมลง

เสือปลา (Fishing Cat) แมวยักษ์ที่ไม่กลัวน้ำสามารถว่ายน้ำและดำน้ำเพื่อล่าเหยื่อ ชอบอาศัยอยู่ตรงแหล่งน้ำที่ไหลช้าและนิ่ง เช่น หนองบึง ป่าชายเลน ฯลฯ บางครั้งจะอาศัยอยู่ใกล้กับชุมนุมมนุษย์ ออกหากินทั้งกลางวันและกลางคืน คนส่วนใหญ่ที่พบเห็นมักจะแยกชนิดไม่ออกระหว่างเสือปลาและแมวดาวเพราะหากมองเผินๆ สัตว์ทั้งสองชนิดนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกัน